รายการในหมวดบูชาได้แล้ว

พระเครื่องคเณศร
รับสั่งจองพระใหม่และวัตถุมงคล
โทร.062 939 4462, 081 425 6328


เปิดกรุ!!!กุมารทองรุ่นแรกปี 2552 หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย จ.ชัยนาท






 

                  หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย จ.ชัยนาท

           หลวงพ่อเอิบ พื้นเพเดิมเป็นคนจังหวัดชัยนาท สมัยหนุ่มก็มีนิสัยที่ชอบศึกษาในวิชาอาคมทุกแขนง เรียกได้ว่ามีวิชาขลังพอตัว ครั้งหนึ่งชาวบ้านโดนผีตายโหงเข้า กี่หมอ กี่หลวงพ่อก็ไล่ไม่ออก ท่านก็ขอลองบ้าง โดยหยิบรองเท้าแตะของตัวเองมาข้างหนึ่ง เสกคาถาเป่าไปที่รองเท้าแตะแล้วเดินไปตบหน้าคนโดนผีเข้าซึ่งแก่คราวลุง ไล่ผีออกทันที จนได้ฉายาว่า หมอผีรองเท้าแตะ เมื่ออุปสมบทแล้วก็ไปเป็นศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อยู่นาน และหลวงพ่อเอิบท่านยังมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ แถมได้วิชาสายหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวลจากหลวงพ่อโอด จันเสนด้วย เพราะวัดอยู่ใกล้กับหลวงพ่อพรหม เรียกว่าพระดีที่ไหน ไปเรียนมาหมด จนหลวงพ่อนะ วัดหนองบัว ต้องเตือนว่า เรียนอะไรหนักหนา แค่นี้ก็เกินพอแล้ว แม้แต่หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ ยังชมเปาะว่า ท่านเอิบนี่วิชาขลังไม่เบา กินกันไม่ลงเลย ด้วยบุคลิกที่เรียบร้อย ใช้ง่าย ไปเรียนวิชากับใครเขาก็รัก เต็มใจสอนให้ทุกที่ หลวงพ่อเอิบท่านพูดถึงตัวท่านเองว่า " ฉันมันเก่งแบบเป็ด เรียนกับนกก็บินได้คล้ายนก เรียนกับปลา ก็ว่ายน้ำได้เหมือนปลา แต่อยู่ในน้ำไม่ได้ตลอดเหมือนปลา เรียนกับไก่ก็ขันได้เหมือนไก่ แต่ไม่เพราะเท่า " แต่ในอีกมุมหนึ่งใครก็รู้ว่าหลวงพ่อเอิบสร้างของขลังได้ขลังสุดๆเพราะเรียนรู้หัวใจมาหมด ของจะดีของจะขลัง อยู่ที่หัวใจ หลวงพ่อเอิบท่านเรียนสำเร็จหัวใจอาถรรพณ์ทั้ง ๑๐๘ ดวง ทำอะไรจะหยิบจำอะไรเป็นขลังไปเสียหมด  ต่อมาท่านไปเป็นศิษย์หลวงพ่อผินะ  แห่งวัดสนมลาว “พระอริยะเจ้า ผู้อยู่เหนือกาลเวลา” และยังได้วิชาสำคัญจากหลวงพ่อผินะไปหมด โดยเฉพาะวิชาการสร้างชะมด ตอนนั้นหลวงพ่อผินะยังไม่ดังมากเหมือนสมัยนี้ท่านเพิ่งมาดังเมื่อตอนท่านมรณภาพแล้ว ท่านเป็นพระอริยะเจ้าผู้รู้วันเวลาตายและท่านมรณภาพด้วยท่านั่งสมาธิ หลวงพ่อเอิบท่านเล่าวันแรกที่เหยียบเข้าไปวัดสนมลาว เพื่อขอเรียนวิชาสุดยอดของหลวงพ่อผินะ ขณะนั้นเป็นเวลาเพลพอดี มีพระจัดภัตราหารถวายหลวงพ่อผินะ ท่านก็นั่งฉันของท่านองค์เดียวโดยที่ไม่เรียกหลวงพ่อเอิบเข้ามาฉันด้วย หลวงพ่อเอิบก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเคยนั่งปฏิบัติตามแนวทางที่หลวงพ่อพรหมวัดช่องแคสอนให้อดข้าวเพลถึง 5 วันติดต่อกันก็เคยมาแล้ว..
              หลวงพ่อเอิบได้ขอเรียนวิชาสุดยอดของหลวงพ่อผินะ หลวงพ่อผินะถามว่า " จะเอาวิชาสุดยอดของพ่อเลยหรือ จะเอาแน่หรือลูก" ท่านตอบว่า "เกล้ากระผมอยากเรียนเพื่อเอาไว้สร้างวัด " หลวงพ่อ  ผินะพูดว่า " พ่ออยู่ที่นี่มานาน ยังไม่เคยมีใครเขาอยากมาเป็นศิษย์เลย เขาบอกว่า เป็นพระแปลก ไม่เหมือนชาวบ้านเขา ชอบดูศพ ชอบดมศพ ถ้าอยากจะเรียนจริงๆ ต้องเป็นพระแปลกเหมือนพ่อนะ นับแต่นั้นมาท่านก็กลายเป็นศิษย์เรียนวิชากับหลวงพ่อผินะมาโดยตลอด  ใครๆที่คลุกคลีกับหลวงพ่อผินะ เจ้าตำหรับหัวชะมดตัวละแสน ต่างรู้ดีว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อผินะได้ฝากฝังวิชาหัวชะมดเอาไว้กับหลวงพ่อเอิบ
หลวงพ่อเอิบท่านเล่าว่าเคล็ดวิชาของหลวงพ่อผินะ คือให้ปลงอสุภะจนจิตสว่าง รู้ถึงตัวกำเนิด ตัวกำหนัด เมื่อทำได้แล้ว ตอนนี้ จะเสกถอนตัวกำเนิด วัตถุมงคลก็จะกลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ไม่มีเสื่อม คล้ายการอธิฐานจิตของพระอริยะเจ้าแต่กลับกัน หากเสกหนุนตัวกำเนิด วัตถุมงคล ก็จะมีฤทธิ์ มีชีวิตเต้นได้ หากินได้ เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา อย่างที่สุด หาอะไรเปรียบไม่ได้ นั่นคือหลักการทำหัวชะมด เมื่อท่านเรียนแล้ว รู้หมดสิ้นแล้ว หลวงพ่อผินะ จึงสั่งว่า ไว้ให้หลวงพ่อตายเสียก่อนนะ ค่อยสร้าง 
         ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงพ่อเอิบเป็นที่นิยมของนักสะสม เช่น  การสร้างเครื่องราง ดาวยศ ดาวจอมพล ดาวเคียงเดือน หรือ "ชูชก" ของท่านที่แปลกและพิสดารกว่าที่อื่น โดยสร้างจากเศษเหรียญ 5 สตางค์บ้าง 10 สตางค์บ้าง สลึงบ้าง 50 สตางค์บ้าง และสตางค์รู เศษเหรียญสตางค์เหล่านี้ ท่านให้ศิษย์ไปขอ ไปแลกมาจากขอทานทั้งชาย-หญิงจากทั่วทุกภาค ทุกจังหวัด เมื่อได้เหรียญสตางค์มามากเข้า นับได้ 5 บาตรพระ ก็เอามาผสมกับฝาบาตรพระเทหล่อเป็นชูชก หลวงพ่อเอิบ ท่านเรียนวิชามามาก ศึกษามามาก จากพระเกจิอาจารย์ที่เป็นของจริงทั้งนั้น เมื่อเสกชูชกเสร็จเห็นนิมิตเป็นเฒ่าชูชก เดินถือไม้ขอเข้ามาที่หุ่นรูปชูชก เป็นหลายร้อย หลายพันตน จึงเชื่อแน่ว่าชูชกของท่านต้องดีดังขลังไม่แพ้ชูชกของพระเกจิรุ่นเก่า เพื่อให้แน่ใจท่านทดลองด้วยตนเองเลย โดยเอาติดอังสะ 1 ตน ไปที่ร้านเถ้าแก่หยูเอ่ยปากขอทราย ขอหิน ขอปูน ขอเหล็ก อย่างละ 1 คันรถ บอกว่า วัดฉันไม่มีเงิน ฉันเองตอนนี้ก็ไม่มีเงิน ถ้ามีเมื่อไรจะให้ เถ้าแก่หยูซึ่งปกติถือคติว่า เงินไม่มี ของไม่ไป กลับเรียนท่านด้วยท่าทางอ่อนน้อมว่า "ของทั้งหมด ผมถวายหลวงพ่อไว้เลย ถ้าขาดเหลืออะไรบอกได้เลยครับ ผมอยากทำบุญกับหลวงพ่ออยู่แล้ว" ตกลงวันนั้น หลวงพ่อได้ของมาครบถ้วน โดยเสียเพียงชูชกตัวเก่ง ที่ติดอังสะให้เถ้าแก่หยูเท่านั้น หลวงพ่อเอิบบอกญาติโยมที่มาบูชาชูชกว่า "ให้ขอในสิ่งที่ควร ขอในสิ่งที่เขาให้เราแล้วไม่เดือดร้อนนะ ไม่งั้นจะเป็นบาปเปล่าๆ เพราะชูชกฉัน ตำราว่าไว้ เอ่ยปากขอแล้ว เขาต้องให้ ถ้าไม่ให้เขาอกแตกตายนะ"  การสร้างวัตถุมงคลแต่ละอย่างของหลวงพ่อเอิบ จะสร้างจากมวลสารที่หายากและมีความหมายในตัวเอง  และครั้งนี้อีกเช่นกันถือเป็นโอกาสอันดี ที่ลูกหลาน จะได้ของวิเศษ สุดยอดมหาเมตตา มหาลาภ ปกป้องคุมครอง ฯลฯ ซึ่งหลวงพ่อได้สร้างเต็มสูตรพิเศษ รวมวิชาการสร้างกุมารทองสายครูบาอาจารย์ จ.นครสวรรค์ อย่าง หลวงพ่อเดิม  วัดหนองโพ ผนวกกับวิชาการสร้างชะมด ยอดวิชาของหลวงปู่ผินะ กลายมาเป็น“กุมารทองขี่ชะมด” ไว้บูชากัน  หลวงพ่อเอิบท่านสร้างกุมารทอง     ขี่ชะมดขึ้นมาเป็นรุ่นแรก โดยสร้างตามตำรับโบราณ เสกอย่างเข้มขลัง มีตัวมีตน และเพื่อหาปัจจัยในการบูรณะวัดซุ้มกระต่าย ซึ่งเป็นวัดกลางทุ่ง ยากจน โดยท่านตั้งใจสร้างอย่างถูกต้องตรงตามตำรา เมื่อปี 2552 ซึ่งตอนแรกท่านจะสร้างให้ลูกศิษย์ชาวสิงคโปร์ตามคำขอเพื่อให้นำกลับไปบูชา แต่ด้วยความพิเศษของมวลสารที่ท่านใช้เนื้อหินศิลาแลงมาเป็นชนวนหลักในการผสมผสานวัตถุอาถรรพ์เป็นจำนวนมาก ทำให้กุมารทองของท่านมีน้ำหนักมากถึงสองกิโลกรัมและขนาดใหญ่ ท่านจึงเปลี่ยนใจเก็บกุมารทองขี่ชะมด ที่ท่านตั้งใจเสกและทำเป็นรุ่นแรกของท่านไว้ และจัดสร้างกุมารไม้แกะ และประเภทอื่นๆ แทน และปีนี้ พ.ศ. 2557 มีพิธีไหว้ครูและงานมหาพุทธาภิเษกใหญ่ที่ท่านนิมนต์พระเกจิคณาจารย์ที่เรืองอาคมมานั่งปรกปลุกเสกทั้งสิ้น 12 รูป อาทิ หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกระถิน จ.ลพบุรี หลวงปู่เช้า  วัดห้วยลำใย จ.นครสวรรค์ ฯลฯ ท่านจึงนำกุมารทองทั้ง 99 องค์ มาปลุกเสกหน้าอุโบสถวัดซุ้มกระต่าย จ.ชัยนาท หลังจากท่านเสกเดี่ยวและเก็บไว้ที่กุฏิถึง 5 ปีเต็ม กุมารขี่ชะมดนี้ มีคุณสมบัติโดดเด่นในทุกๆเรื่อง ตั้งแต่ช่วยทำมาหากิน เรียกทรัพย์ เรียกโชค  เกื้อหนุนดวง ค้ำดวง ปกป้องคุมครอง และคุ้มภัยอันตราย รับเคราะห์แทนเจ้าของ  เป็นพรายกระซิบเตือนภัย กุมารขี้ชะมดนี้หมั่นบ่น หมั่นแก้ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก กุมารทองขี่ชะมด มีตัวตนไม่มีพิษภัยใดๆให้กับผู้บูชา จัดเป็นกุมารที่ทรงคุณค่ายิ่งนัก อีกทั้งชะมดเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตามหานิยม มหาโชค  มหาลาภ เงินไหลกอง  ทองไหลมา ตามสายวิชาหลวงปู่ผินะ เมื่อนำมาผนวกกับกุมารทองถือว่าทรงอานุภาพชั้นครู
ท่านสร้างได้สร้างกุมารขี่ชะมดเป็นรุ่นแรกของท่านไว้เพียง 99 องค์และจำนวนมากไปอยู่กับลูกศิษย์ท่านที่ต่างประเทศ  การสร้างกุมารทองรุ่นนี้แรงเป็นอย่างมาก เพราะหลวงพ่อเอิบตั้งใจรวมสองสายวิชาที่ร่ำเรียนมาเป็น “กุมารขี่ชะมด”สายพรายที่แรงสุดๆ ลูกศิษย์นำไปใช้แล้วเล่าลือกันว่าเข้มขลัง ยิ่งเลี้ยงยิ่งเรียกใช้ ยิ่งไหว้วานบนบอกบ่อยๆ ยิ่งขลังมาก มีตัวมีตนออกมาเดินเล่นให้เห็นกันมานักต่อนัก ใต้ฐานกุมาร อุดด้วยดิน 7 ป่าช้า ดิน 7 มงคล 7 ที่ คือ ดิน 7 นคร 9 บุรี ดิน 7 ถ้ำ ดิน 7 โป่ง ดิน 7 นา ดิน 7 ท่า ดินทอง 7 เมือง 7 สวน ว่านยา 7 ชนิด ว่านกุมารทอง 7 หัว ผงพรายกุมาร ผงพรายตะเคียน ผงมหาภูต ผงแม่ธาตุ ผงนะหน้าทอง หินศิลาแลง เป็นต้น มวลสารที่นำมาสร้างกุมารทองรุ่นนี้ล้วนเป็นมวลสารมงคลที่แรงในด้านการผูกหุ่นขึ้นรูป (และฝังตระกรุดมหาเมตตาชั้นครูอีกสามดอก )ได้ผงชั้นยอดอย่างนี้มาสร้างกุมารทองและปลุกเสกเชิญญาณโดยหลวงพ่อเอิบและพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ ทำให้กุมารมีฤทธิ์มาก ใครเอาไปเลี้ยงก็เฮี้ยน เห็นตัวช่วยได้ทุกๆ อย่าง ท่านได้ตั้งธาตุให้มีฤทธิ์มีเดชมีขันธ์ 5 ใส่อาการ 32 ให้ครบ ไล่ตั้งแต่เส้นผมจนถึงปลายเท้า จากปลายเท้าเข้าสู่เส้นผม โดยอนุโลมปฏิโลม 32 ครั้ง จนเกิดนิมิตอาการ 32 ประการมีตัวตนมีชีวิตจิตใจ เป็นญาณของ กุมารทอง ลงอักขระซ้ำเจิมเบิกเนตรอีกครั้ง เพื่อความขลังและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆ ขึ้น  พุทธานุภาพของกุมารทองขี่ชะมดจะคอยช่วยเหลืออุดหนุนนำโชค คอยเรียกทรัพย์เงินทอง ผู้เลี้ยงกุมารทองจะหาความยากจนไม่ได้ คำว่า อด อยาก ยากจน จะไม่มีวันเกิดขึ้น จะมีกินมีใช้ตลอดชีวิตทำมาค้าขึ้น กิจการเจริญรุ่งเรือง มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เรียกลูกค้าเข้าร้าน ติดต่อการงานราบรื่น เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เมื่อท่านนำกุมารทองไปเลี้ยงสักระยะหนึ่งจะรู้ว่ากุมารของหลวงพ่อเอิบไม่เหมือนใคร 



​………………………………………………………………………………………………………​

 

 

ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูล, ราคา และของสมนาคุณ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการพิมพ์
ภาพที่ใช้ประกอบในเว็บไซด์นี้อาจปรับแสงเพื่อความสวยงาม ของจริงอาจแตกต่างกันบ้าง