หลวงปู่แป๋ว(พระครูปัญญาวิมล) วัดดาวเรือง อ.บางระจันทร์ จ.สิงห์บุรี(กุมารขี่วัวธนู)
สืบพระเวทย์บ้านบางระจัน กุมารบางระจัน รุ่นแรก (หลวงปู่แป๋ว) วัดดาวเรือง ท่านสร้างไว้ให้เป็น “กุมารเหนือกุมาร” อุดผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ตั้งใจให้เป็นของคู่แผ่นดิน หลวงปู่ชวนเทพเจ้าแห่งโพธิ์ทอง หลานแท้ๆและสืบพุทธาคมหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง เอ่ยปากชมเปาะ สวยงามครบเครื่อง ถูกต้องตามโบราณ ขนาดเสกแม่ชีแม่ขาวในพระอุโบสถเห็นเป็นตัวเป็นตน เสร็จพิธีหลวงพ่อเอิบ ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่ผินะวัดสนมลาว ปรมาจารย์กุมารขี่ชะมดอันลือลั่นขอบูชากุมารขี่วัวธนูไปเฝ้ากุฏิ และขอบูชาเศียรครูที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ไปสองเศียร
การสร้างกุมารตั้งแต่สมัยโบราณมีหลายประเภท ในปัจจุบันเป็นกุมารที่ใช้ในเรื่องการค้าขายเป็นส่วนมาก แต่การสร้างกุมารที่มีตัวมีตนใช้รบทัพจับศึกแบบการรบสมัยโบราณนั้นหาผู้สร้างได้ยากยิ่งเนื่องจากผู้เลี้ยงต้องมีวิชาอาคมสูงมีพลังจิตเข้มขลังมาก ใช้ในการสู้รบ ใช้ไปฆ่าศัตรูหรือที่เรียกกันว่า กุมารเพชรมั่น กุมารเพชรคง กุมารเพชรกลับ เป็นกุมารที่โหดร้าย อำมหิต เป็น“กุมารเหนือกุมาร” ซึ่งในปัจจุบันแทบจะไม่มีให้เห็นนอกจากผู้เรียนไสยเวทย์มนต์ดำแถบชายแดนเขมร ปัจจุบันการสร้างกุมารเป็นเพียงการใช้มวลสารอาถรรพ์มาทำเป็นตุ๊กตาดินปั้นแล้วเสกด้วยการตั้งธาตุหนุนธาตุให้เกิดอาการ 32 มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม ซึ่งนิยมทำในปัจจุบัน กุมารนักรบตามตำรับบ้านบางระจันตามตำราโบราณนั้น มีวิธีการสร้างและทรงฤทธิ์เฉกเช่น “กุมารเหนือกุมาร” ที่ขุนแผนใช้รณรงค์สงคราม หลวงปู่แป๋ว วัดดาวเรือง พื้นเพท่านเป็นลูกหลานบ้านบางระจันโดยกำเนิดท่านจึงมีดำริในการจัดสร้าง”กุมารเหนือกุมาร”ที่มีตัวมีตนขึ้นเพื่อให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ไว้ใช้ โดยเน้นในด้านเมตตา เกื้อกูลเป็นหลัก โดยการจัดสร้างจะใช้ชนวนอาถรรพ์มากมายเช่น ดินเจ็ดป่าช้า ผงเก้าโกศหลวงพ่อชื่นวัดตาอี และหลวงพ่อกอยวัดเขาดินใต้ เหล็กยอดฉัตร เหล็กสังฆวานรจากยอดฉัตรพระพุทธบาทและบรมธาตุเจดีย์ ดินเจ็ดทุ่ง เจ็ดท่าน้ำ ดินใจกลางพระนครทั้งเก้า ผงตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ผงอิทธิเจ ผงเสน่ห์จันทร์ขาวเสน่ห์จันแดง เถ้ากระดูกอาถรรพ์ต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือผสมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่และชนวนมวลสารจากการสร้างเหรียญนักรบเมืองสิงห์ “รุ่นเสือดำ จงอางศึก” รุ่นแรกที่สร้างขึ้นโดย หลวงปู่พระครูอินทคณานุสิชชณ์ (หลวงปู่เจ๊ก) วัดระนาม สิงห์บุรี พระเกจิอาวุโส เรืองวิทยาคมแห่งสิงห์บุรีในอดีตและชนวนรูปหล่อหลวงปู่โต๊ะ วัดกำแพง พระคณาจารย์อาวุโสที่เรืองนามด้านนิรันตรายที่มรณภาพไปเกือบศตวรรษฯลฯ มาเป็นมวลสารผสมชนวนในการหล่อขึ้นรูปกุมารโลหะ
ในส่วนของวัวธนูมหากาฬ (วัวธนูทองแดง) ที่นำมาประกอบเป็นกุมารขี่วัวนั้นเป็นการสร้างวัวธนูมหากาฬ ในตำราโบราณ กล่าวไว้ว่าเป็นวิชาป้องกันตัว และใช้ปกป้องบ้านเมืองของนักรบสมัยก่อน หรือแม้กระทั่งการใช้วัวธนูมหากาฬนี้ไปฆ่าศัตรู วิชาเหล่านี้เป็นการทำหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทำได้ทั้งรูปคนและสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนู สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กสังฆวานร เป็นต้น เอามาหลอมรวมกันหล่อเป็นรูปควายบ้าง วัวบ้าง บางสำนักใช้โครงเป็นไม้ไผ่แล้วพอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุทรา เมื่อทำสำเร็จแล้วต้องปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดี หาหญ้าและน้ำเลี้ยงเสมอ สามารถใช้ให้เฝ้าบ้านหรือไร่นา ใช้งานได้ตามความประสงค์ ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย
การทำธนูมือหรือการลงวิชายันต์ธนูที่ตัววัวเพื่อให้อานุภาพในการต่อสู้ศัตรูเป็นไปอย่างเข้มขลังได้ใช้ตามตำรับหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตตารามที่ท่านสักฝากวิชาเอาไว้ที่มือหลวงปู่แป๋วผู้เป็นศิษย์ ได้นำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างวัวธนูมหากาฬ แต่จะแรงมากก็คือการปราบปรามของอัปมงคลที่บุกรุก และยังใช้ทำน้ำมนต์ประพรมสิ่งของขายดีต่างๆ วัวธนูมหากาฬ นี้สร้างจากเหล็กนพสูรย์ยอดฉัตรที่ได้ครั้งบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุเจดีย์ และยอดพระพุทธบาท สายฟ้าปัก กลางปราสาท ตามตำราโบราณบ้านบางระจันกล่าวว่า ทรงฤทธิ์ เทพประทานจากฟ้า เป็น“วัวธนูอาถรรพณ์” หรือเรียกว่า “วัวธนูแก้วสารพัดนึก” เบื้องบนมอบให้ ใช้ไล่ ต่อสู้ ป้องกันศัตรู คุ้มครองบ้านเรือน ค้ำคูณตน ให้ผลทางเพิ่มความ เจริญรุ่งเรืองในลาภผล หรือเรียกว่า ครอบจักรวาลก็ได้
วัตถุอาถรรพณ์ที่นำมาสร้าง อาทิเช่น เนื้อชนวนโลหะอาถรรพณ์และชนวนมวลสารทั่วประเทศที่นำมาสร้างวัตถุมงคลรุ่นคู่แผ่นดิน(เคยได้กล่าวไว้ในประวัติการสร้างวัตถุมงคลรุ่นคู่แผ่นดิน) ทองแดงเถื่อน,เหล็กยอดเจดีย์ของวัดเขมรโบราณ,ดีบุก,กระสุนปืนด้าน,ดาบ,หอก,ปืน,กริชสมัยโบราณ,ทองขวานฟ้าเหล็กขนันผี,เงินปากผี และแผ่นยันต์ตามตำราอีกมากมาย ชนวนขวานฟ้า หลวงปู่สมหมาย อนาลโย ศิษย์สายหลวงปู่มั่นที่นำแผ่นจารครูบาอาจารย์๘๐รูปพระกริ่ง๘๐รุ่นกำไรสำฤทธิ์โบราณจำนวน๒เส้น(อายุไม่ต่ำกว่า๗๐๐ปี)ส้น(อายุไม่ต่ำกว่า๗๐๐ปี) ตะกั่วขอมโบราณที่ได้รับจากหลวงปู่กาหลงฐานพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยวัตถุมงคลรุ่นต่างๆของครูบาอาจารย์ชนวนเหรียญขวานฟ้าหลวงปู่หลุย,หลวงปู่ชอบหลวงปู่ศรีจันทร์หลวงปู่เหรียญหลวงปู่ท่อนชนวนปรกเศรษฐีวัดเจดีย์หลวงเนื้อขวานฟ้า(หลวงตามหาบัวเสก)รูปหล่อเมตตาบารมี หลวงตามหาบัวและเหรียญตัดชิดขวานฟ้า+รูปหล่อ๘รอบขวานฟ้า และชิ้นส่วนที่เหลือของหลวงปู่พวง และยังมีมวลสารมงคลอีกมาก ปรอกกระสุนปืน ที่ครูบาอาจารย์ปลุกเสกให้จำนวน ๑๐๘ ครูบาอาจารย์(เริ่มเสกมาตั้งแต่ปี ๔๕ถึงปัจจุบัน ปรอกกระสุนปืนที่หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า “อรหันต์กลางกรุง”เสกให้ ปี๔๗ ปรอกกระสุนปืนที่หลวงปู่โส กัสสโปเสกไตรมาสให้เมื่อปี๔๖เหตุผลที่ใช้ปรอกกระสุนปืน เพราะหลวงปู่หลอดท่านเคยกล่าวว่า "ใช้ปรอกกระสุนปืนสร้างพระนั้นดีมันเป็นเคล็ดแม่ไม่ฆ่าลูก ทำพระไว้แขวน ยิ่งบ่ออก" ดังนั้นจึงเป็นเคล็ดให้การสร้างวัวธนูไม่กลับไปทำร้ายเจ้าของนั่นเอง เมื่อนำโลหะทั้งหมดนี้มาทำพิธีหล่อหลอมรวมกันเป็นแผ่นยันต์ที่ลงอักขระเลขยันต์มาเป็นรูปวัวธนูอิทธิฤทธิแก้สิ่งอาถรรพณ์ได้108 ใต้ฐานอุดด้วยครั่งพุทรา(ครั่งที่ใช้นั้นต้องป็นครั่งที่เกาะบนกิ่งพุทราที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้น)
หลวงปู่แป๋วท่านได้สร้างวัวธนูมหากาฬตามตำราโบราณบ้านบางระจัน ไม่ต้องเลี้ยงเหมือนวัวธนูทั่วไปไม่มีโทษผู้เลี้ยงแล้ว การสร้างวัวธนูมหากาฬที่ทรงพุทธคุณหลวงพ่อท่านได้ใช้มวลสารที่เสกโดยพระสายกรรมฐานเนื่องจากมีพลังเมตตาสูง ซึ่งพลังเมตตานี้จะลดความเกรี้ยวกราดดุร้ายของวัวธนูลงได้
พิธีกรรมปลุกเสกวัวธนูมหากาฬเมื่อท่านกำหนดฤกษ์งามยามดี แล้วตั้งเครื่องบูชาครูตามฤกษ์ที่กำหนดไว้ เป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำตามฤกษ์และพิธีอย่างเคร่งครัดที่สุด เพื่อเพิ่มความขลังความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่วัวธนู ปลุกเสกจนกว่านิมิตเห็นวัวธนูมีชีวิตขึ้นมาหันหัวไปซ้ายที ขวาที วิ่งสำแดงเดชให้เห็นว่ามีตัวตนเหมือนมีชีวิต จากนั้นปลุกเสกตั้งธาตุ หนุนธาตุ ใส่อาการ32 และท่านได้บรรจุพลังอย่างเต็มที่ เรียกสูตรเรียกนาม ตามวิชาที่ท่านได้ร่ำรียนมาจากครูบาอาจารย์ของท่าน มีพุทธคุณ ช่วยขจัดและขับไล่วิญญาณชั่วร้าย (ไม่รวมถึงวิญญาณ ของกุมารทอง ผีปู่ ย่า ตา ยาย ผีเรือนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ) สถานที่อยู่อาศัย,สำนักงาน,ร้านค้า,โรงงาน, หรือสิ่งปลูกสร้างใด ที่ตั้งอยู่ทางสามแพร่ง(ทางผีผ่าน) ทำมาค้าขายไม่คล่อง จะนำวัตถุมงคลใดๆไปบูชาแล้วไม่เกิดผล สืบเนื่องมาจากสถานที่ ที่นั้นยังมีวิญญาณชั่วร้ายแอบแฝงอยู่ คอยกลั่นแกล้งตามล้างตามผลาญ วัวธนูนี้จะขับไล่สิ่งอัปมงคลและวิญญาณชั่วร้ายนั้นออกไปก่อนจนไม่เหลือ จึงนำสิ่งที่เป็นมงคลที่มีพุทธคุณในเรื่องเมตตาค้าขายไปบูชาจึงเกิดผล เพราะว่าวัตถุมงคลชนิดอื่นไม่มีหน้าที่ขจัดและปราบภูติผีปีศาจและวิญญาณสิ่งชั่วร้ายได้ดีเท่าวัวธนู เพราะวัวธนูมีอนุภาพมาก วัวธนูมีนิสัยมุทะลุดุดัน ปราดเปรียวมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวสามารถป้องกันและแก้คุณไสย มนต์ดำ และภูติผีปีศาจ วิญญาณชั่วร้าย ลมเพลมพัด ใครคิดร้ายจะสะท้อนกลับไปหาผู้นั้นเอง สามารถเฝ้าบ้าน ร้านค้า โรงงาน พร้อมป้องกันโจรผู้ร้ายไม่ให้เข้ามาบริเวณดังกล่าวได้ หากมีพวกภูติผีปีศาจเข้ามารบกวน วัวธนูก็จะออกขับไล่ทำให้ภูติผีปีศาจไม่กล้าเข้าใกล้เคหะสถานอีกด้วย วัวธนูจะออกไปป้องกันให้มนต์ดำสะท้อนกลับไปหาเจ้าของที่ปล่อยมนต์ดำออกมา สามารถบูชาวัวธนูไว้ในรถจะคุ้มครองกันภัยต่างๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งถนนหนทางเกือบจะทุกที่ทุกแห่งจะเต็มไปด้วยพวกวิญญาณผีตายโหงก็ยังเร่ร่อนวนเวียน คอยวิญาณใหม่ที่จะมาแทนที่ ประสบอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นบ่อยครั้ง ถ้าหากเราตั้งบูชาวัวธนูนี้ไว้หน้ารถแล้ว บรรดาภูติผีปีศาจวิญญาณชั่วร้ายต่างๆจะไม่เข้ามากล้ำกลายทำอันตรายมาดลจิตดลใจให้ผู้ขับขี่เกิดความประมาทได้ หรือแม้แต่ในโรงพยาบาล โรงแรม และสถานที่ต่างๆที่มีวิญญาณเร่ร่อนพเนจร บรรดาภูติผีปีศาจเหล่านั้นจะไม่สามารถทำอันตรายหรือปรากฏให้เห็นแก่ผู้ที่มีวัวธนูไว้บูชา ถ้าครอบครัวใดไม่มีความสุข ต้องมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด จะมีคนในบ้านมีอันเป็นไปในทางที่ไม่ดีไปทีละคน จะมีคนป่วยไม่สบายหาสาเหตุการป่วยไม่เจอ ก็จะแก้อาถรรพ์ที่เกิดขึ้นได้สำหรับผู้ที่ดวงตกดวงไม่ดีเรียกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกอาภัพอับโชคทำอะไรก็ไม่สำเร็จมีแต่อุปสรรคมาขัดขวางทำดีไม่ได้ดี ต้องนำวัวธนูไปเลี้ยงบูชาแก้ปัญหาได้ชงัดนักสำเร็จสมประสงค์หมดปัญหาจะอยู่ดีกินดี กิจการค้าเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขที่เห็นผลมามากต่อมากแล้ว เพราะว่าการดำรงชีวิตในปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยการแก่งแย่งกันทำมาหากิน แย่งชิงอำนาจกัน มีศัตรูคอยอาฆาตรกลั่นแกล้งต่างๆ นำให้เราพบปัญหาอุปสรรคต่างๆ วัวธนูสามารถปกป้องผู้ที่เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี การปลุกเสกวัวธนูมหากาฬนี้ถ้าผู้บุกรุกหรือผู้แอบแฝงเป็นภูติผีมันจะขับไล่จนกระทั่งภูติผีปีศาจหรือวิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้นหมดสภาพไม่สามารถใช้ให้ไปทำอะไรได้อีก
การปลุกเสกตามพิธีศักดิ์สิทธิ์มณฑลพิธีประกอบต้องล้อมรอบด้วยราชวัตรปลุกเสกกลางอุโบสถใช้ฤกษ์วันเสาร์เกือบพลบค่ำเป็นฤกษ์ในการเสก ใช้ผ้าขาวสำหรับคาดเพดานยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้าสำหรับคาดเพดาน ปักไม้รักเป็นราชวัตรฉัตรพิธีสำหรับปักเป็นเสา ๔ อัน ( สี่ทิศ ) สายสิญจน์ยาวพอที่จะวนมณฑลพิธีได้ ๗ รอบ ผ้ายันตร์ตรีนิสิงเหสำหรับติด ๘ ผืน ( แปดทิศ )ด้านหลังเป็นยันต์อิติปิโสประจำแต่ละทิศ คือยันต์ประจำทิศใดก็ให้ติดยันต์นั้นประจำทิศทั้งแปด แต่ละทิศคือ..
๑. ทิศบูรพา ให้ติดกระทู้ ๗ แบก ( อะระชาคะตะระสา )
๒. ทิศอาคเนย์ ให้ติดฝนแสนห่า ( ติหังจะโตโรถินัง )
๓. ทิศทักษิณ ให้ติดนารายณ์กลืนสมุทร ( ปิสัมวะโลปุสัตพุท )
๔. ทิศหรดี ให้ติดนารายณ์พลิกแผ่นดิน ( โสมานะกะริถาโต )
๕. ทิศประจิม ให้ติดตวาดหิมพานต์ ( ภะสัมสัมวิสะเทภะ )
๖. ทิศพายัพ ให้ติดนารายณ์กลืนจักร ( คะพุทปันทูธัมวะคะ )
๗. ทิศอุดรให้ติดนารยณ์ขว้างจักร ( วาโธอะมะมะวา )
๘. ทิศอีสาน ให้ติดนารายณ์แปลงรูป ( อะวิสสุนุตสานุ)
เมื่อถึงฤกษ์พราหมณ์ในพิธีบรวงสรวงวีรชนบ้านบางระจัน ขออำนาจปกปักรักษาสืบพิธีนี้ให้ศักดิ์สิทธิ์ โดยหลวงปู่แป๋ว เจ้าพิธี ได้นั่งเป็นประธานหน้าพระประธานในอุโบสถบริกรรมพระเวทย์การปลุกเสกตั้งธาตุหนุนธาตุ และอาราธนาพระคณาจารย์ที่เชี่ยวชาญในกรรมฐานนิพพานสูตร ในการสร้างเสกกุมารทองมาประจำทั้งสี่ทิศเพื่อกำกับพิธีมณฑลสถานและให้ได้กุมารที่เหนือกุมารตามสายพระเวทย์บ้านบางระจัน ได้แก่ 1).หลวงปู่ชวน กตปุญโญ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ของเมืองอ่างทอง ผู้สืบสานวิทยาคมจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
2).หลวงพ่อบุญธรรม วัดบางจิก สิงห์บุรี ศิษย์ร่วมสำนัก หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
3). หลวงพ่อเอิบ ฐิตธรรมโม วัดซุ้มกระต่าย จ.ชัยนาท ศิษย์พุทธาคมหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ และหลวงปู่ผินะ วัดสนมลาว
4).หลวงพ่อพระครูปืน วัดลาดชะโด ผู้สืบสายวิทยาคมตำรับสายพระญาติ จ.พระนครศรีอยุธยา
กุมารบางระจัน รุ่นแรก สร้างสี่แบบเป็นกุมารบางระจันพิมพ์เล็กเนื้อเหล็กสังฆวานร และเนื้อทองนพคุณ และกุมารมหาปราบนกคุ้มกันภัย และที่พิเศษคือกุมารบางระจันขี่วัวธนูมหากาฬหรือวัวธนูทองแดงที่มีอานุภาพเหนือวัวธนูทั้งปวง ดังคำกล่าวหลวงปู่“ อานุภาพครอบจักรวาล วันหน้าจะหายากยิ่ง กูสร้างไว้ให้พวกมึง”
⚜ ผู้บูชาจะเกิดศิริมงคล มีความเจริญก้าวหน้าในด้านการงาน⚡️
⚜มีเสน่ห์ เมตตามหานิยมในตัว เหมาะสำหรับทุกอาชีพ ⚡️
⚜บูชาเพื่อเสริมความเป็นศิริมงคล บูชาเพื่อความสำเร็จในทุกเรื่อง⚡️
⚜อธิษฐานขอบารมีพ่อแก่หรือปู่ฤาษี ดลบันดาลให้ได้ดั่งใจนึก⚡️
⚜ขอพรได้ตามใจปรารถนา ส่วนมากสำเร็จดังหวัง ไม่ค่อยผิดหวัง ⚡️
⚜เมตตามหานิยม เจริญรุ่งเรือง ทุกอาชีพการงาน ประสบความสำเร็จ⚡️
⚜เช่น ค้าขาย ครู อาจารย์ ดารา นักแสดง หรือ ทางด้านนาฏศิลป์ ⚡️
⚜ร้องรำทำเพลง วาดภาพ นักเขียน หรืออาชีพอื่นๆ กราบไหว้บูชาประสพผลสำเร็จ ⚡️
⚜ปาฏิหาริย์บันดาลโชคลาภเป็นหนึ่ง⚡️
⚜ส่งเสริมศาสตร์ความรู้ในทุกด้าน รวมทั้งด้านวิชาคาถาอาคม ⚡️
⚜แคล้วคลาดปลอดภัย ขับคุณไสย ไล่สิ่งไม่ดี
⚜บูชา เพื่อเกิดศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว⚡️
📌ปีใหม่นี้บูชาปู่ฤาษีนารอดเสริมความมั่งคั่ง แก้ปีชงกันนะครับ ตามตำราเล่าสืบมาพระนารท หรือ พระนารอด หรือ พระนาระทะ
👍เป็น1 ใน พระประชาบดี (เทวฤษีที่เป็นพระผู้สร้าง) ๑๐ องค์ คือ เป็นผู้ประดิษฐ์ 'วีณา'หรือ พิณน้ำเต้า เล่ากันว่า
🏮พระฤๅษีนารทบำเพ็ญพรตอยู่เชิงเขาโสฬส นอกเมืองลงกา ตำนานว่าไว้เมื่อคราวที่หนุมานไปถวายแหวนแก่นางสีดาได้เหาะเลยเมืองลงกาเพราะไม่รู้จักทาง ไปพบกันเข้าจึงเกิดการประลองฤทธิ์กัน แต่หนุมานเกิดพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์พระฤๅษีจึงยอมอ่อนน้อม และเมื่อคราวหนุมานไปเผากรุงลงกาไฟที่ติดหางหนุมานจะดับอย่างไรก็ไม่สามารถดับได้ หนุมานจึงไปหาพระฤๅษีนารทให้ช่วยดับไฟให้
🎯พระฤาษีนารอด เป็นครูของฤาษีทั้งปวง ทรงกำเนิดจากเศียรที่ ๕ ของพระพรมธาดา ทรงเพศเป็นฤาษี พระฤาษีนารอดถือว่าเป็นฤาษีองค์แรกของไตรภูมิ ไม่ว่าจะมีการบูชาสิ่งใด หากไม่มีการเชิญท่านแล้ว พิธีกรรมนั้นมักไม่สมบูรณ์
🎯พระรอดต่างๆที่โด่งดังไม่ว่าจะเป็นพระรอดลำพูน พระรอดลางปืนที่เป็นพระเครื่องราง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้พระสมเด็จฯ และพระนางพญา ที่ได้ถูกขนานนามว่าเป็น ' เทวีแห่งนิรันตราย ' ทั้งได้แสดงคุณวิเศษทางแคล้วคลาดเป็นที่ประจักษ์มาแล้วมากมาย ตามตำนานกล่าวว่า 'พระนารทฤาษี' เป็นผู้สร้างพระพิมพ์นี้ขึ้น จึงเรียกพระพิมพ์นี้ว่า 'พระนารท' หรือ 'พระนารอด' ครั้นต่อมานานเข้ามีผู้เรียกและผู้เขียนเพี้ยนไปเป็น 'พระรอท' และในที่สุด ก็เป็น'พระรอด' อีกทั้งเหมาะกับภาษาไทยที่แปลว่า รอดพ้น จึงนิยมเรียกพระพิมพ์เครื่องรางชนิดนี้ว่า พระรอด เรื่อยมาโดย ไม่มีผู้ใดขัดแย้ง พระฤษีนารอด ท่านเป็นหมอยาที่มีคาถาอาคมเก่งกล้า ทั้งยังเป็นอาจารย์รดน้ำมนต์ที่เก่งที่สุดอีกด้วยท่านมีบารมีมาก ปวงชนทั่วไปก็มักจะรู้จักพระนามของท่านแทบทั้งนั้น รูปร่างหน้าตาของท่านก็ยังมีหนวดเครายาวลงมาจากคางถึงในระหว่างอกมือถือดอกบัว ตรงด้านหน้ามีบาตรน้ำมนตร์ตั้งอยู่เป็นประจำ เก่งในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ชะงัดนักแล ถ้าหากผู้ใดมีความทุกข์ที่เกี่ยวกับการเจ็บไข้ได้ป่วย ก็จงบนบานศาลกล่าวกับท่านดูแล้วท่านก็จะต้องเมตตาเสด็จลงมาปัดเป่ารักษาให้โรคภัยนั้นหายไปในเร็ววัน ท่านเก่งในคาถาอาคมศักดิ์สิทธิ์มีเวทมนตร์ขลังเป็นที่สุด ชอบสันโดษการได้บูชาพระนารอดจะเป็นมงคลอันสูง ท่านก็จะได้แผ่บารมีแห่งความเมตตามายังท่าน มาป้องปัดบำบัดรักษา และคุ้มครองมิให้โรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนตลอดกาล....
การสร้างบรมครูปู่นารอดตามตํารับบ้านบางระจัน วัดดาวเรือง จังหวัดสิงห์บุรีได้สร้างไว้ โดย
📍ใช้ฤกษ์ในการบวงสรวงประกอบพิธีเททองและพลีชนวนมวลสารอาถรรพณ์และชนวนศักดิ์ สิทธิ์ทั่วแผ่นดินสยาม เพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวแก่ลูกศิษย์ลูกหาทั่วไปและถือเป็นตัวแทนของครูทุกแขนง ให้ชํวยปัดเป่าสิ่งร้ายให้กลายดี ชํวยเสริม บารมีด้วยแรงครู ความมั่งคั่ง ร่ํารวย โชคลาภ เมตตา วาสนา บารมีแรงเกื้อหนุนค้ําคูณจากครู มีครูคอยปกปักรักษา และผู๎ที่ถือพระเวทย์มนตราไม่ขึ้นท่านให้บูชาหัวครูพระนารอดเพื่อที่อาศัยแรงครูในการช่วยให้การว่าพระคาถาตํางๆได้ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนพระฤาษีบรมครู ประสิทธ์ประสาทพรสร้างจํานวนทั้งสิ้น 45 องค์ ตามอายุการสั่งสอนพระศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นบรมครูของทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย โดยถือฤกษ์หล่อจากชนวนมวลสารชั้นครูเพื่อให๎เกิดความแรง ขลัง และบรรจุหนังตะโพนแตกไว๎เป็นมวลสารสำคัญ รวมทั้ง มวลสารศักดิ์สิทธิ์เช่นชานหมากพระอรหันตเจ๎า และจีวรกสิณไฟของพระอริยเจ้าตามตําหรับหลวงพํอเดิม วัดหนองโพ เพื่อให้เป็น “มงคลธุรกิจ มงคลกิจการ มงคลราชการ”ในคราวเดียวกัน ใครมีวาสนาบารมี บุญต๎องกันจึงจะได้ปู่ไว้บูชา เพื่ออาศัยบารมีครูค้ำคูณกิจการให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป และในวารดิถีปีใหม่นี้ ใครอยากจะได้เศียรพ่อแก่พระนารอทพิธีดี พิธีใหญ่ พิธีขลัง ไปไว้บูชาเสริมโชควาสนาบารมี เสริมดวง ค้ำดวง คเณศรได้เชิญพระฤาษีนารอทของวัดดาวเรืองที่สร้างในพิธีใหญ่สืบพระเวทย์บ้านบางระจัน รุ่นแรก มาให้บูชาเสริมดวงกัน ในปีใหม่นี้นะครับ
📌081-425-6328
⚡️ไอดีไลน์ kanesorn
เคน คเณศร คเณศร
🎯สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่🎯
📲081-425-6328
📲084-657-9117
📲095-365-0864
📲096-249-2498
🆔ไอดีไลน์ kanesorn
คเณศรออนไลน์ เครื่องรางกุมารทอง คเณศรออนไลน์
เคน คเณศร คเณศร