หลวงพ่อชวน วัดเขาแก้ว จ.อ่างทอง บูชาได้แล้วครับ
หลวงพ่อชวน วัดเขาแก้ว จ.อ่างทอง บูชาได้แล้วครับ
เหรียญเศรษฐี ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ จากอำนาจแห่งพระอรหันต์ อัครสาวก พระสิวลี พระสังกัจจายน์
📢บูชาได้แล้ว 📢วัตถุมงคลที่มาแรงสุด ยอดความงดงามแห่งพุทธศิลป์ ถูกต้องตามพิธีกรรมโบราณ สู่ “เหรียญเศรษฐี” หรือเหรียญ “รวย” ด้านหน้าเหรียญ คือ พระสังกัจจายน์ พระอรหันต์ ผู้บันดาลโชคลาภ ปัญญา บารมี ลงอักขระมหายันต์ตะขอเกี่ยวทรัพย์ไว้ที่องค์พระ ด้านหลังเหรียญ คือ พระสิวลี พระอรหันต์ผู้บันดาลลาภยศ ชื่อเสียงที่ขจรไกล
พระสังกัจจายน์เป็นพระอรหันต์ 1 ใน 80 พระอสีติมหาสาวกในศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้า ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร กัจจานะ (หรือกัจจายนะ) ในญี่ปุ่นรู้จักทั่วไปในชื่อ "คะเซ็นเน็น" (Kasennen) มีพุทธลักษณะอ้วน พุงพลุ้ย มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ เป็นหนึ่งในพระสาวกผู้ใหญ่ คติการสร้างพระสังกัจจายน์นิยมการสร้างมาก พระสังกัจจายน์จีน แบบมหายาน หินยาน โดยเฉพาะแบบจีน พระสังกัจจายน์จีนนิยมสร้างมากกว่าในเมือง โดยมีคติความเชื่อที่ว่า "ผู้ใดบูชาพระสังกัจจายน์ ย่อมเป็นมหามงคลอุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล"
พระมหากัจจายนะเกิดในตระกูลพราหมณ์ตระกูลหนึ่งในกรุงอุชเชนี ได้รับการศึกษาในทางไตรเพทเวทมนตร์ตามอย่างตระกูลพราหมณ์ทั้งหลาย ท่านเป็นศิษย์ของอสิตดาบสแห่งเขาวินธัย (ผู้ทำนายว่าเจ้าชายสิทธิตถะจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหรือพระพุทธเจ้าในอนาคต) พระมหากัจจายนะพร้อมด้วยมิตรอีก 7 คนได้อาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมเทศนา และได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในระหว่างฟังธรรมนั้นเอง หลังจากนั้นท่านจึงทูลขออุปสมบทต่อพระพุทธเจ้า และเผยแผ่ศาสนาพุทธอยู่ในแคว้นอวันตีจนมีผู้เข้ามาเป็นสาวกในพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก
พระสังกัจจายน์ เป็นพระพุทธสาวกที่มีความเฉลียวฉลาดมีความรู้ และเป็นที่โปรดของพระพุทธองค์ยิ่งมีบารมี มีอิทธิฤทธิ์ ผู้ใดบูชาพระสังกัจจายน์ จึงได้รับพรจากพุทธสาวก อันเป็นเอตทัคคะอย่างสมบูรณ์ ด้วยลาภอันประเสริฐ ลาภอันประเสริฐที่ว่าคือ "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" ตามบาลีที่ว่า "อโรคฺยาปรฺมา ลาภา"
การสักการบูชาพระสังกัจจายน์เพื่อให้บังเกิดความเป็นสิริมงคล 3 ประการแก่ตนเองและครอบครัว ดังนี้
1. โชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ พระสังกัจจายน์ได้รับการยกย่องให้เป็นพระผู้อุดมด้วยโภคทรัพย์ และลาภสักการะเสมอด้วยพระสิวลี รูปลักษณ์ท่านแสดงถึงความมีลาภพูนทวี
2. สติปัญญา เนื่องเพราะพระสังกัจจายน์ได้รับการยกย่องจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นเลิศในทางอธิบายความพุทธภาษิต ท่านเป็นอรหันต์ผู้มีปฎิภาณเฉียบแหลม เป็นผู้เลิศในการอธิบายธรรมโดยย่อ ผู้ที่เป็นนักศึกษา นิสิต เหมาะแก่การบูชาเป็นอย่างยิ่ง
3. ความงามและความมีเสน่ห์เป็นเมตตามหานิยม เนื่องจากเพราะก่อนที่ท่านจะอธิษฐานจิตให้รูปร่างเปลี่ยนแปลง พระสังกัจจายน์มีผิวดั่งทองคำและมีรูปงามละม้ายเหมือนพระพุทธเจ้า จนแม้แต่เทพยดา พรหม มนุษย์ทั้งปวงพากันรักใคร่ชื่นชม
ด้านหลังเหรียญเศรษฐีคือ พระสิวลีพระอรหันต์แห่งโชคลาภ
สาเหตุที่ท่านได้รับการยอมรับว่า เป็นพระอรหันต์แห่งโชคลาภนั้น เพราะในสมัยที่ท่านยังอยู่ในครรภ์มารดา คือ พระนางสุปฺปวาสา ผู้เป็นราชบุตรีของเจ้าเมืองโกลิยะ ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์มารดานั้นนานถึง 7 ปี กับอีก 7 วัน เพื่อชดใช้กรรมเก่าจากการที่ในชาติก่อนนั้น
(โดยปกตินั้น คนธรรมดาอยู่ในท้องแม่ไม่เกิน 9 เดือน 10 เดือนก็ต้องคลอดออกมาแล้ว)
ซึ่งครั้งนั้น พระองค์ทรงเป็นพระราชาในเมืองแห่งหนึ่ง ทรงมีอุบายร่วมกับพระมารดา พยายามจะแย่งชิงเมืองอีกเมืองมาเป็นของตน แต่ไม่ใช้กำลังเข้าห้ำหั่น อาศัยกลยุทธ์เข้าล้อมเมืองนั้น
ทำให้เมืองนั้นขาดการติดต่อจากโลกภายนอก ชาวเมืองล้วนประสบโรคภัยไข้เจ็บ เผชิญกับการขาดแคลนอาหาร ดำรงชีวิตอยู่ด้วยคงวามทุกขเวทนา ด้วยความทุกข์เวทนามากว่า 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ผลจากกรรมนั้น จึงส่งผลมาดังกล่าวแก่ท่าน ให้ท่านนั้นต้องทนอุดอู้อยู่ในครรภ์มารดานั้น
แต่ด้วยด้วยอำนาจบุรพกรรมตามมา ได้ทำให้เกิดโชคลาภแก่พระมารดาผู้ทรงครรภ์เป็นอันมาก โดยกล่าวว่าในเวลาใกล้ประสูติ แม้พระมารดาของท่านจะได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า แต่ยังมีสติที่ดี จึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดา
ในการครั้งนี้ พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสประทานพรแก่พระนางว่า
“ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข
ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด”
ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพของพระพุทธองค์ผู้เป็นใหญ่ทั้ง 3 โลก ทำให้ความทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานหายไป พระนาง ก็ได้ประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ และกุมารน้อยจึงได้รับพระนามว่า “สีวลีกุมาร” นับแต่นั้นเป็นต้นมา
และเมื่อพระนางมีพระวรกายแข็งแรงดีแล้ว มีพระประสงค์ที่จะถวายมหาทานติดต่อกันเป็น เวลา 7 วัน ในวันถวายมหาทานนั้น สีวลีกุมาร มีพระวรกายเข้มแข็งดุจกุมารผู้มีพระชนม์ 7 พรรษา ได้ช่วยพระบิดาและพระมารดาจัดแจงกิจต่างๆ
ซึ่งท่านพระสารีบุตรเถระได้สังเกตดูอยู่ตลอดเวลา จึงเกิดความรู้สึกพอใจในพระราชกุมารน้อย และครั้นถึงวันที่ 7 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ท่านจึงได้ชักชวน สีวลีกุมาร ออกบวช
ซึ่งในการปฏิบัติพิธีกรรมนั้น พระสารีบุตรเถระ ผู้รับภาระเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้สอนพระกรรมฐานเบื้องต้น คือ ตจปัญจกกรรมฐานทั้ง 5 ได้แก่ เกสา(ผม) โลมา(ขน) นขา(เล็บ) ทันตา(ฟัน) ตโจ (หนัง) ให้ พิจารณาของทั้ง 5 เหล่านี้ว่าเป็นของไม่งาม เป็นของสกปรก ไม่ควรเข้าไปยึดติดหลงใหล
เมื่อสีวลีกุมาร ได้สดับพระกรรมฐานนั้นแล้วนำไปพิจารณาในขณะที่กำลังจรดมีดโกนเพื่อ โกนผม ครั้งแรกนั้นท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน จรดมีดโกนลงครั้งที่ 2ท่านได้บรรลุเป็น พระสกทาคามี จรดมีดโกนลงครั้งที่ 3 ท่านได้บรรลุเป็นพระอนาคามี และเมื่อโกนผมเสร็จ ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ทั้งที่อายุยังน้อย!
ในครั้งใดก็ตาม หากท่านร่วมคณะเผยแพร่ธรรมไปกับคณะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะพบว่ามีผู้ทำบุญถวายปัจจัยอย่างไม่ขาด ทั้งภัตตาหาร และที่พักอาศัย แม้จะออกเผยแพร่ธรรมในเป็นดินแดนห่างไกล ยากไร้ แห้งแล้ง กันดารเพียงใดก็ตาม
ด้วยบุญบารมีของพระสีวลีนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตัวท่านเอง แต่ยังได้เผื่อแผ่ไปยังพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งสงฆ์สาวกท่านอื่นๆ ให้ได้รับปัจจัยอย่างทั่วถึง
ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์ จึงทรงประกาศให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัทตรัสยกย่องท่านใน ตำแหน่ง เอคทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง “ผู้มีลาภมาก”
จึงเป็นที่มาของความศรัทธาที่ว่า
ท่านทรงเป็นพระภิกษุสงฆ์แห่งโชคลาภ และความสมบูรณ์มั่งคั่งที่ไม่เคยขาด และความศรัทธานี้ก็ยังคงปรากฏอย่างเด่นชัด สืบทอดมาจนปัจจุบันนี้ หากผู้ใดบูชาพระสิวลีอย่างถูกต้อง ก็จะพบความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว และมีกินมีใช้ไม่ขาด
ซึ่งความศรัทธานี้ ได้สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน ทำให้มีผู้ที่ทำธุรกิจการค้า หรือต้องการประสบความสำเร็จโดยเร็วในด้านเมตตามหานิยม หรือโชคลาภ สรรเสริญจึงบูชาพระสีวลีไม่ได้ขาด โดยมีวิธีในการบูชาที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้
สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องอักขระเลขยันต์ เหรียญเศรษฐีนี้ด้านหลังเหรียญเป็นพระสีวลีมีคาถาที่น่าสนใจอยู่ ๔ บท คือ ๑.ด้านหน้าองค์พระสีวลี ยืนหันข้าง ล้อมรอบด้วยลายกนก มีหัวใจพระสีวลีคือ นะ ชา ลี ติ ๒.ด้านหลังเหรียญ มียันต์คาถาเรียกลาภที่ว่า เอหิลาภัง มานิ มา มา ๓.คาถาเรียกทรัพย์ ที่ว่า เอหิโภคัง มานิ มา มา เรียกทรัพย์ให้มา และ ๕.ตรงกลางที่เขียนอยู่ในตาราง คือ เป็นยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ที่ว่า นะ โม พุท ธา ยะ ส่วนด้านล่างบาตรมีอักษรภาษาไทยเขียนว่า “รวย”
การเขียนยันต์ในลักษณะนี้ มุ่งเน้นพุทธคุณด้านมหาอุด และป้องกันภัย โดยเขียนร้อยกันเป็นซึ่งสามารถอ่านได้จากทุกด้าน เกจิอาจารย์ยุคโบราณมักจะจารยันต์ตัวนี้ลงบนแผ่นหนังเสือ โลหะ เพื่อทำตะกรุดโทนมหาอุด ทั้งนี้ หากใครได้ศึกษาตำราอักขระเลขยันต์จะพบว่า ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ที่เขียนอยู่ เป็นยันต์ในตำราพิชัยสงคราม ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งยันต์ด้านมหาอุด
ส่วนคาถาหัวใจพระฉิมพลี ที่ว่า "นะ ชา ลิ ติ" หรือ "นะ ชา ลี ติ" ถอดมาจากคาถา "ธรณีปริต" ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานให้พระอานนท์ คาถาเริ่มจาก "ชาโล มหาชาโล ชาลัง มหาชาลัง ชาลิเต มหาชาลิเต ชาลิตัง มหาชาลิตัง มุตเต มุตเต มุตตัง มุตตัง สัมปัตตัง สุตัง คะมิติ สุตังคะมิติ มัคคะยีติ ทิฏฐิลา ทัณฑะลา มัณฑะลา โรคิลากะระลา ทุพพะลา ริตติ ริตติ กิตติ กิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ มุตติ มุตติ จุตติ จุตติ ธาระณี ธาระณีติ อิทังธา ระณะ ปะริตตัง"
#สอบถามรายละเอียดได้คเณศร
☎️062-939-4462
☎️081-425-6328
‼️สำนักงานใหญ่‼️
📌หมู่บ้านนิรันดร์วิลล์ราม2 แยก3-1 แขวงดอกไม้ เขต.ประเวศ กทม
http://line.me/ti/p/~Kanesorn
🆔ไอดีลาย Kanesorn
🆔หรือลายแอดตามลิงค์ด้านล่างนี้คับ
https://line.me/R/ti/p/%40kanesorn
📌ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่📌
🖥www.kanesorn.com🖥#
🔮ติดตามข่าวสารเพจทางร้าน📩
https://m.facebook.com/kanesorn4256328/